วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

The Number 23 : 23 รหัสช็อคโลก

The Number 23 : 23 รหัสช็อคโลก 1/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


The Number 23 : 23 รหัสช็อคโลก 2/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


The Number 23 : 23 รหัสช็อคโลก 3/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


The Number 23 : 23 รหัสช็อคโลก 4/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


The Number 23 : 23 รหัสช็อคโลก 5/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


ความหมกมุ่นในปริศนาเลข 23 ของวอลเทอร์ สแปร์โรว์ (จิม แครี่) กำลังจะกลายเป็นอำนาจมืดที่ทำให้ชีวิตแสนสุขของเขากลายเป็นนรกแห่งความผิดเพี้ยนทางจิตที่อาจนำความตายมาสู่เขาและคนที่เขารัก ความหมกมุ่นนั้นมาจากหนังสือนิยายลึกลับชื่อ The Number 23 ที่เขาอ่านและวางไม่ลง วอลเทอร์ต้องไขปริศนาเกี่ยวกับอดีตของตนเองให้ได้ก่อนจะสานต่ออนาคตกับ อกาธา ผู้เป็นภรรยา (เวอร์จิเนีย แมดเซ่น) และ โรบิน ลูกชายวัยรุ่น (โลแกน เลอห์แมน)

หนังสือเล่มนี้เป็นของขวัญที่อกาธามอบให้เขาในวันเกิด มันเล่าถึงปริศนาการฆาตกรรมเลือดเย็นที่สะท้อนชีวิตด้านมืดของวอลเทอร์อย่างยากจะควบคุม ชีวิตของนักสืบมาดเครียด ฟิงเกอร์ลิง ตัวละครหลักในหนังสือ (รับบทโดยจิม แครี่ เช่นกัน) มีหลายแง่มุมที่สะท้อนถึงปูมหลังของวอลเทอร์ เมื่อโลกในหนังสือมีชีวิตขึ้นมา วอลเทอร์ก็จมลงสู่ส่วนที่น่ากลัวและทรงอิทธิพลที่สุดของหนังสือ นั่นก็คือ ความหมกมุ่นในอำนาจลึกลับของเลข 23 เช่นเดียวกับฟิงเกอร์ลิง

ความหมกมุ่นแทรกซึมอยู่ในทุกหน้ากระดาษและเริ่มครอบงำวอลเทอร์ เขามองเห็นเลข 23 ทุกที่ในชีวิตจริงและปักใจเชื่อว่าตนเองจะก่อเหตุฆาตกรรมเช่นเดียวกับตัวละครฟิงเกอร์ลิงในหนังสือ ภาพสุดสยองตามหลอกหลอนวอลเทอร์ในมโนสำนึก ภาพที่เป็นเหมือนลางร้ายทำนายชะตากรรมของภรรยาของเขาและ ไอแซค เฟรนช์ (แดนนี่ ฮุสตัน) เพื่อนรักของครอบครัว วอลเทอร์จึงต้องออกเดินทางเพื่อไขปริศนาของหนังสือ ถ้าเขาสามารถค้นพบความจริงเบื้องหลังอำนาจเลข 23 ได้ เขาก็อาจจะแก้ไขอนาคตได้

จิม แครี่ แสดงนำในภาพยนตร์ระทึกขวัญ/จิตวิทยา The Number 23 ผลงานจากบริษัท Contrafilm/Firm ฝีมือการกำกับของ โจเอล ชูมาคเกอร์ (Batman & Robin, Phone Booth, 8MM, Phantom of the Opera) บทภาพยนตร์โดยมือเขียนบทหน้าใหม่ เฟิร์นลี่ย์ ฟิลลิปส์ อำนวยการสร้างโดย โบ ฟลีนน์ และ ทริป วินสัน (After the Sunset, The Exorcism of Emily Rose) อำนวยการสร้างบริหารโดย ไมค์ เดรค, โทบี้ เอเมอริช, ริชาร์ด เบรเนอร์, คีธ โกลด์เบิร์ก, บรูกลิน วีฟเวอร์ และเอลิ ริชเบิร์ก ร่วมอำนวยการสร้างโดย เฟิร์นลี่ย์ ฟิลลิปส์ และลินดา ฟีลด์ ฮิลล์

นำทีมนักแสดงสมทบโดย เวอร์จิเนีย แมดเซ่น (Sideways) และแดนนี่ ฮุสตัน (The Constant Gardener) ร่วมด้วย โลแกน เลอห์แมน (Hoot), โรห์น่า มิตรา (ทีวีซีรี่ย์ Nip/Tuck) และลีน คอลลินส์ (The Merchant of Venice)

สร้างสรรค์ความระทึกสู่จอภาพยนตร์โดย ตากล้องชื่อดัง แมทธิว ลิเบติค, ASC (Requiem for a Dream), นักออกแบบงานสร้าง แอนดรูว์ ลอวส์ (Down with Love), นักออกแบบเครื่องแต่งกาย แดเนียล ออร์แลนดิ (The Davinci Code), มือตัดต่อ มาร์ค สตีเว่นส์ (Phone Booth) และนักแต่งเพลง แฮรี่ เกร็กสัน วิลเลี่ยมส์ (The Chronicles of Narnia)

The Number 23 เริ่มต้นถ่ายทำเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2006 ที่บริเวณรอบๆลอสแองเจลลิส รวมถึงชุมชนอัลทาเดน่า, แปซิฟิก พาลิซาเดซ, มอนเทอรี่ พาร์ค และเทมเพิล ซิตี้ ฉากภายในและฉากในหนังสือถ่ายทำในสตูดิโอ Sunset Gower ในฮอลลีวู้ด และสตูดิโอ Los Angeles Center ย่านธุรกิจของลอสแองเจลลิส

The Number 23 ได้รับเรท R จากองค์กร M.P.A.A. สำหรับความรุนแรง, ภาพล่อแหลม, ฉากเซ็กส์ และภาษาไม่เหมาะสม และเข้าฉายในอเมริกาวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2007 โดยบริษัท New Line Cinema

23 ตัวอย่างแห่งปริศนาเลข 23

ปริศนาเลข 23 คือความเชื่อที่ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างในโลกล้วนเกี่ยวพันกับเลข 23 หรือเลขอื่นที่เกี่ยวโยงถึงเลข 23 ข้างล่างนี้คือบางตัวอย่างของปริศนาเลข 23

1. พ่อและแม่ถ่ายทอดโครโมโซมคนละ 23 เส้นสู่ DNA ของลูก

2. ระยะเวลาที่เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายเท่ากับ 23 วินาที

3. ในมนุษย์ โครโมโซมตัวที่ 23 เป็นตัวบ่งชี้เพศ

4. มีตัวอักษรทั้งหมด 23 ตัวในภาษาละติน

5. จูเลียส ซีซาร์ ถูกแทง 23 ครั้งจนเสียชีวิต

6. โลกหมุนรอบตัวเองใช้เวลา 23.56 ชั่วโมง ไม่ครบ 24 ชั่วโมงพอดี

7. กลุ่มอัศวินเทมเพลอร์ (อัศวินผู้พิทักษ์ศาสนาคริสต์) มีผู้นำทั้งหมด 23 คน

8. วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ เกิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน 1564

9. วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ ตายวันที่ 23 เมษายน 1616

10. ปฏิทินอียิปต์และสุเมเรียนเริ่มต้นที่วันที่ 23 กรกฎาคม

11. เรือไททานิคจมลงสู้ก้นมหาสมุทรในเช้าวันที่ 15 เมษายน 1912 (4+1+5+1+9+1+2=23)

12. ชาวมายันเชื่อว่าโลกจะถึงกาลอวสานวันที่ 23 ธันวาคม 2012 (20+1+2=23)

13. ชื่อบริษัทภาพยนตร์ของ จิม แครี่ คือ JC23

14. จอห์น ดิลลิงเกอร์ ปล้นธนาคารทั้งหมด 26 แห่ง แต่ปล้นเอาเงินแค่ 23 แห่ง

15. ระยะทางจากใจกลางดาวอังคารถึงดวงจันทร์บรวารที่ใกล้ที่สุดเท่ากับ 23,500 กิโลเมตร

16. เหตุเครื่องบินระเบิดในเที่ยวบิน TWA 800 มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 230 คน

17. เคิร์ท โคเบน เกิดเมื่อปี 1967: 1+9+6+7=23

18. เคิร์ท โคเบน เสียชีวิตในปี 1994: 1+9+9+4=23

19. ภาพยนตร์เรื่อง The Number 23 เปิดกล้องเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2006

20. ตัวอักษรในชื่อของ โจเอล ชูมาคเกอร์ (Joel Schumacher) และ จิม แครี่ (Jim Carrey) บวกกันเท่ากับ 23

21. ตัวอักษรในชื่อของ เวอร์จิเนีย แมดเซ่น (Virginia Madsen) และ จิม แครี่ (Jim Carrey) บวกกันเท่ากับ 23

22. ชาร์ลส์ แมนสัน (อาชญากร, นักดนตรี) เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน (11+12=23)

23. ภาพยนตร์เรื่อง The Number 23 เข้าฉายในอเมริกาวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2007

mper / ฅนโดดกระชากมิติ















Jumper / ฅนโดดกระชากมิติ
วันที่เข้าฉาย : 21 กุมภาพันธ์ 2551
แนวหนัง : แอ็คชั่น-ทริลเลอร์-ไซไฟ
กำกับโดย : ดั๊ก ลีแมน
นักแสดง : เฮย์เดน คริสเตียนเซ่น, ราเชล บิลสัน, เจมี่ เบลล์, ซามูเอล แจ็คสัน

เดวิด ไร้ซ์ (เฮย์เด้น คริสเตนเซ่น)เติบใหญ่ขึ้นมาพร้อมกับความสามารถพิเศษที่ใคร ๆ ต่างก็อยากมี เขาเคลื่อนที่ไปยังที่ใดในโลกก็ได้ดังใจปรารถนาโดยอาสัยช่องโหว่ของกาลเวลาก้าวจากที่หนึ่งไปยังตึกใดก็ได้ ไปยังเมืองใดก็ได้ เพียงพริบตาเดียวเขาก็ “โดดกระชากมิติ” จากซีกโลกหนึ่งไปยังอีกซีกโลกหนึ่ง แล้วก็กลับมายังจุดเดิมได้ดังใจสั่งเลย เย็นวันเดียวกันเขาปรารถนาจะชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าสัก 20 ครั้งก็ไม่ใช่เรื่องลำบาก เช้าวันไหนอยากไปรับประทานอาหารเช้าบนยอดสฟิงซ์ในอียิปต์ก็ไม่ยาก แล้วจะขึ้นกระดานเซิร์ฟโต้คลื่นที่ออสเตรเลีย ทั้งวันก็ย่อมได้ พลบค่ำก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศดินเนอร์สุดหรูในกรุงปารีส ก่อนจะไปตบท้ายของหวานที่ญี่ปุ่น ก็สบาย ๆ เขายังโดดทะลุกำแพงเข้าไปยังเซฟของธนาคาร และห้องลับสุดยอดที่ไหนก็ได้ แต่เขาก็ได้อาศัยความสามารถพิเศษนี่แหละพยายามหนีให้พ้นอดีตอันขมขื่น, ตักตวงหาผลประโยชน์จากความสามารถพิเศษอย่างเต็มที่, และไม่คิดจะพึ่งพาใครทั้งสิ้น เขาไม่เคยล่วงรู้ถึงขอบเขตหรือข้อจำกัดของความสามารถพิเศษนี้มาก่อน หรือแม้แต่พันธะที่จะตามมากับมันด้วยซ้ำ จนกระทั่งบัดนี้

เมื่อ เดวิด รู้จักกับชายหนุ่มอีกคนที่มีความสามารถพิเศษเช่นเดียวกันชื่อ กริฟฟิน (เจมี่ เบล) หนุ่มหัวขบถสุดก้าวร้าวที่เดินทางท่องโลกมาอย่างโชกโชน เดวิดจึงได้รู้ถึงข้อเท็จจริงที่คาดไม่ถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่ได้คนพิเศษที่ผิดธรรมชาติเพียงคนเดียวในโลก หากแต่เป็นหนึ่งในความพิเศษทางพันธุกรรมที่เรียกกันว่า เหล่าจัมพ์เฟอร์ ซึ่งต่างก็กำลังตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง บัดนี้เดวิดก็ถูกขึ้นบัญชีดำขององค์กรลับที่สาบานตนว่า จะกำจัดเดวิดและปราบเหล่าจัมพ์เฟอร์ให้สิ้นซาก และเขาก็ตกเป็นเหยื่อของการไล่ล่าอย่างไร้ความปรานี ซึ่งจะตามติดไปทุกแห่งหนทั่วโลก เดวิดกลายเป็นหมากสำคัญตัวที่จะได้เห็นสงครามล้างเผ่าพันธุ์ที่เข่นฆ่ากันอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่เป็นที่รู้เห็นแก่สายตาของชาวโลกทั่วไป และยืดเยื้อยาวนานมาหลายชั่วอายุคนแล้วด้วย

Armageddon วันโลกาวินาศ





























Armageddon วันโลกาวินาศ

ลูกอุกกาบาตขนาดใหญ่เท่ามลรัฐเท็กซัส (บางคนบอกว่าเป็นดาวหาง) กำลังพุ่งตัวเข้าหาโลกด้วยความเร็ว 22,000 ไมล์ต่อชั่วโมง มีเวลาเหลือเพียง 18 วันเท่านั้น ที่พอจะกู้โลกให้พ้นจากหายนะองค์การนาซา ชาวสหรัฐฯ และคนทั้งพิภพ ฝากความหวังเดียวไว้กับ แดน ทรูแมน (ธอร์นตัน) ผู้อำนวยการองค์การนาซาและกลุ่มนักขุดเจาะน้ำมันผู้ห้าวหาญภายใต้การนำทีมของ แฮร์รี่ สแตมป์เพอร์ (บรู้ซ วิลลิส) ผู้มีประสบการณ์สูงในอาชีพขุดน้ำมัน พวกเขามีเวลา 12 วัน ในการฝีกฝนหลักสูตรการเป็นนักบินอวกาศ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานกำกับของ ไมเคิล เบย์ ผู้สร้างความมันสะใจจาก The Rockอำนวยการสร้าง โดยผู้สร้าง ID 4 หนังเปิดตัวแรงด้วยรายได้ 34 ล้านเหรียญ ในช่วงสุดสัปดาห์แรกทำสถิติเป็นหนังของ บรู้ซ วิลลิส ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุด และทำเงินกว่า 150 ล้านเหรียญ ในระยะ เวลาหนึ่งเดือน ระทึกเร้าใจกับเทคนิคพิเศษตระการตา ที่สร้างสรรค์โดยทีมงานชั้นยอดของวงการ

THE DAY AFTER TOMORROW วิกฤติวันสิ้นโลก

THE DAY AFTER TOMORROW วิกฤติวันสิ้นโลก

แนว : แอ็คชั่น / Sci-Fi / ดราม่า / ระทึกขวัญ
ความยาว : 124 นาที
กำหนดฉาย : 28 พฤษภาคม 2547

จะเป็นอย่างไร... หากโลกเรากำลังจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งครั้งใหม่?

นี่เป็นคำถามที่ตามหลอน แจ็ค ฮอลล์ (เดนนิส เควด) ผู้เป็นนักกาลวิทยา (paleoclimatologist) ผลที่ได้จากการค้นคว้าของฮอลล์ระบุว่า สภาวะโลกร้อนอาจเป็นชนวนหายนะ แห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันของภูมิอากาศโลก แกนน้ำแข็งที่เขาทำการเจาะในทวีปแอนตาร์กติกา บ่งว่ามันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน และในตอนนี้เขาได้ส่งคำเตือนไปยังหน่วยราชการ ว่ามันอาจเกิดขึ้นอีกครั้ง หากไม่มีการดำเนินการโดยทันที แต่คำเตือนของเขามาถึงช้าเกินไป...

ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น เมื่อฮอลล์ได้เจอกับก้อนน้ำแข็ง ที่มีขนาดใหญ่พอๆ กับรัฐโร้ดไอส์แลนด์ ซึ่งแตกออกมาจากภูเขาน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ และจากนั้น คือปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงของอากาศอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลก : ลูกเห็บขนาดใหญ่เท่าผลส้มโอ ตกกระหน่ำเมืองโตเกียว ลมพายุเฮอริเคนรุนแรง ชนิดทำลายสถิติพัดเข้าสู่ฮาวาย หิมะตกที่เมืองนิวเดลี และจากนั้นพายุทอร์นาโดหลายลูก ก็เข้ากวาดเมืองลอสแอนเจลิส

โทรศัพท์ที่เขาได้รับจาก ศาสตราจารย์แร็พสัน (เอียน โฮล์ม) เพื่อนร่วมงานในสก็อตแลนด์ ยืนยันให้กับความกลัวที่ร้ายแรงที่สุดของแจ็ค : สภาวะอากาศรุนแรงเหล่านี้ เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั่วโลก น้ำแข็งที่ปกคลุมบนขั้วโลกได้ละลาย และทำให้น้ำไหลทะลักลงสู่มหาสมุทร และรบกวนกระแสคลื่น ซึ่งเป็นตัวสร้างสมดุลย์ของระบบภูมิอากาศของเรา สภาวะโลกร้อนได้ผลักดันให้โลก เฉียดเข้าไปใกล้กับยุคน้ำแข็งครั้งใหม่ และมันจะเกิดขึ้น ในระหว่างที่พายุมหึมาลูกหนึ่งถล่มไปทั่วโลก

ในขณะที่แจ็คเตือนทำเนียบขาว เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่กำลังคุกคามโลกนั้น แซม (เจค กิลเลนฮาล) ลูกชายวัย 17 ของเขาก็ติดอยู่ในนิวยอร์ค ซิตี้ ในระหว่างที่เขาและเพื่อนๆ ไปร่วมแข่งขันด้านวิชาการระดับมัธยม และตอนนี้เขาต้องเผชิญกับอุทกภัยร้ายแรง และอุณหภูมิที่กำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็วในแมนฮัตตัน ต่อมา เมื่อได้ถูกอพยพเข้าไปอยู่ในหอสมุดสาธารณะแห่งแมนฮัตตัน แซมจึงสามารถติดต่อกับพ่อของเขาได้ทางโทรศัพท์ แจ็คมีเวลาที่จะเตือนลูกเพียงข้อเดียวเท่านั้น : จงอยู่แต่ในอาคารไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!

ในขณะที่การอพยพประชากรครั้งใหญ่เพื่อมุ่งหน้าลงใต้เริ่มขึ้นนั้น แจ็คก็เดินทางขึ้นเหนือสู่นิวยอร์ค ซิตี้ เพื่อช่วยแซม แต่แม้แต่แจ็คก็ไม่ได้เตรียมตัว ที่จะเผชิญกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น – กับตัวเอง กับลูกชายของเขา และกับโลกของเขา...

ในภาพยนตร์เรื่อง Independence Day โรแลนด์ เอ็มเมอริค เคยพาเราไปพบกับโลก ที่เกือบจะถูกทำลายโดยมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว คราวนี้ในเรื่อง The Day After Tomorrow เราจะได้พบกับศัตรู ที่สามารถทำลายล้างได้มากยิ่งขึ้นไปกว่า นั้นคือ "ธรรมชาติ"

ภาพยนตร์ยอดฮิตแห่งปี 1996 ของ ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ เรื่อง Independence Day นั้นเป็นหนังไซไฟขนานแท้; มันไม่ได้อิงจากความเชื่อที่มีกันอย่างกว้างขวาง ว่าการบุกรุกจากมนุษย์ต่างดาวนั้น เป็นเรื่องที่ใกล้เข้ามาทุกที แต่ The Day After Tomorrow มาจากสถานการณ์ ที่หยั่งรากมาจากความกังวลอย่างแท้จริง เกี่ยวกับสภาวะของโลกเรา

เราเดินทางไปถึงช่วงเวลา ที่ยุคน้ำแข็งอาจเกิดขึ้น แต่ทฤษฎีที่ว่าภาวะโลกร้อน อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอากาศอย่างฉับพลัน นับว่ากำลังอยู่ในความสนใจของคนส่วนใหญ่ ในขณะที่ไม่มีใครรู้ว่า ผลที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร กับการที่มนุษย์สะสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มเข้าไปในชั้นบรรยากาศ ผู้เชี่ยวชาญบางคนได้อ้างถึง มันว่าเป็น 'การทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่อาจควบคุมได้ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์'

Twister ทอร์นาโดมฤตยูถล่มโลก

Twister ทอร์นาโดมฤตยูถล่มโลก

ทวิสเตอร์1 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


ทวิสเตอร์2 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


ทวิสเตอร์3 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


ทวิสเตอร์4 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


ทวิสเตอร์5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


ทวิสเตอร์6 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


รหัสผ่าน : pom

ชื่อไทย ทอร์นาโดมฤตยูถล่มโลก
ชื่ออังกฤษ Twister
เรื่องย่อ

ด้วย พลังของพายุร้าย มันสะบัดบ้านทั้งหลังพังเป็นชิ้นๆเหอบวัวทั้งตัวลอยเคว้งกลางอากาศ ทั้งรถแทร็คเตอร์ ร่วงจากฟ้าเหมือนห่าฝน รวมทั้งรถบรรทุกน้ำมันหนักกว่า 6 ตัน ดิ่งสู่พื้นโลก ไม่ต่างกับระเบิดขนาดยักษ์ มันคือเพลังแห่งการทำลายล้างจากธรรมชาติด้วยความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนเข้าหาคุณ..ระวังไว้ให้ดี! นี่คือเความตื่นเต้น ลุ้นระทึก สุดขั้วหัวใจ ตื่นตาด้วยเทคนิคพิเศษสุดยอดสมจริง

เฮเลน ฮันต์ และ.บิล แพ็กซ์ตัน กับบทสองนักวิทยาศาสตร์ ผู้ท้าทายทอร์นาโดมฤตยู ขนาดมหึมา โดยหาข้อมูลจากมันเพื่อสร้างระบบเตือนภัยจากพายุที่สมบูรณ์แบบสำหรับอนาคต แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดเพราะทั้งสองต้องใส่เครื่องมือสกัดอากาศ นี้ ไว้ตรงกลางวงพายุ ขณะที่มันยังหมุนด้วยกำลังมหาศาล พวกเขากำลังท้าทายกับความตายครั้งยิ่งใหญ่ จากพายุนรกลูกนี้

Back to the future 3 เจาะเวลาหาอดีต 3

Back to the future 3 เจาะเวลาหาอดีต 3

Back to the Future 3 1/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 3 2/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 3 3/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 3 4/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 3 5/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


และการผจญภัยเดินทางย้อนเวลาเจาะอนาคตก็มาถึงบทสรุปแล้วครับ

หลังจากภาคที่แล้วดร.บราวน์ (Christopher Lloyd) และยานเจาะเวลาได้ถูกฟ้าแล้วก็หายสาปสูญไป มาร์ตี้ (Michael J. Fox) ก็กำลังยืนงงอยู่ จนในที่สุดก็พบความจริงว่า ดร.ระเห็จไปสู่ปี 1885 อันตรงกับยุคคาวบอยเฟื่อง ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากแต่ มาร์ตี้ดันพบว่า ดร.จะต้องถูกฆ่าตายนี่น่ะสิครับ มาร์ตี้เลยต้องเจาะเวลาไปอดีตอีกครั้งเพื่อช่วยด็อกกลับมา แต่งานนี้ยุ่งแน่ เพราะยานเจาะเวลาดันไม่เหลือน้ำมันเลยตอนไปถึงปี 1885 ... แล้วยุคนั้นมีน้ำมันที่ไหนกันล่ะ พวกเขาจะกลับมาได้ไหม แล้วพวกเขายังต้องเจอกับอะไรอีก อันนี้ต้องตามไปดูครับในตอนอวสานของหนังชุดนี้ครับ

Back to the future 2 : เจาะเวลาหาอดีต 2

Back to the Future 1 6/6 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 2 2/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 2 3/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 2 4/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 2 5/5 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


ภาษา : ไทย
รายละเอียด : Marty McFly กับ Doc ข้ามเวลาไปในปี 2015 หรืออีก 30 ปีข้างหน้าของปัจจุบัน ในหนัง เพื่อไปแก้ปัญหาของครอบครัว แต่เหตุการณ์เริ่มบานปลายเมื่อใครคนนึงแอบใช้ ยานข้ามเวลาเพื่อไปแก้ไขอดีตให้ตัวเอง ทำให้ทั้งสองคนต้องกลับไปในปี 1955 อีกครั้ง

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Back to the future 1 เจาะเวลาหาอดีต

Back to the future
เจาะเวลาหาอดีต

Back to the Future 1 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 1 2/6 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 1 3/6 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 1 4/6 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 1 5/6 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


Back to the Future 1 6/6 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


เรื่องย่อ
Michael J. Fox แสดงเป็น Marty McFly หนุ่มวัยรุ่นอเมริกันขาเฮ้วธรรมดา ๆในศตวรรรษที่ 18 ( ปี 1985) ที่บังเอิญกลับไปยังปี 1955 โดยเครื่องย้อนเวลาพลังงานพลูโตเนียม ซึ่งประดิษฐ์โดยนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องสุด ๆ แสดงโดย Christopher Lloyd Marty ได้ไปเปลี่ยนแปลงอดีตการพบรักกันของพ่อกับแม่ตัวเองโดยบังเอิญอย่าง ตั้งใจ??? ทำให้เหตุการณ์ในอนาคตกำลังเปลี่ยนแปลง เขาต้องทำให้พ่อกับแม่รักกันก่อนที่จะ กลับมาสู่อนาคต

เรื่องที่ได้รับความนิยม